รู้จักเส้นขีดจีน มีชัยไปกว่าครึ่ง

ถ้าพูดถึงการเขียนอักษรจีน ลำดับขีดสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และคนจีนเองก็ภูมิใจในภาษาของตัวเองไม่น้อย รวมทั้งระบบเส้นขีดที่ซับซ้อนทั้งหมดนั่นด้วย

ครูผู้สอนภาษาจีน หรือเหล่าซือ (老师)ส่วนใหญ่แทบจะทนไม่ได้ทุกครั้งที่เห็นนักเรียนเขียนอักษรจีนด้วยลำดับขีดที่ผิดเพี้ยน ลำดับขีดมันสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ ลองมาดูเหตุผลกันค่ะ

อันดับแรก เรามาพูดถึงเส้นขีด (Stroke) กันก่อน อย่างในรูปข้างล่างนี้ จะเห็นว่ามีเส้นขีดพื้นฐาน 11 เส้นที่พบเห็นได้ในอักษรจีนส่วนใหญ่     

chinese-stroke

แค่เขียนเส้นขีดในทิศทางที่ผิด ก็เท่ากับเริ่มผิดตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่น เส้น “捺 (nà)” ต้องลากจากบนลงล่าง และตวัดปลายหางเล็กน้อย ถ้าเราเขียนผิดเป็นลากจากล่างขึ้นบน ตรงปลายก็จะตวัดได้ไม่เหมือนกัน ไม่เชื่อลองเขียนดู หรือถ้าเทียบกับตัวภาษาอังกฤษ เช่นตัว s ลองเขียนแบบปกติ และอีกตัวลองเขียนจากล่างขึ้นบน ก็จะเห็นเลยว่า มันไม่มีทางเหมือนตัว s ปกติ และก็ดูไม่ธรรมชาติด้วย

คนจีนเชื่อในความสมดุล เค้าถึงได้มี หยิน กับ หยาง ตัวอักษรจีนก็เช่นกัน เส้นขีดถูกออกแบบมาเพื่อให้เราเขียนตัวอักษรจีนได้อย่างสวยงาม มีความสมดุลของตัวอักษร รูปข้างล่างนี้คือคำว่า “永(yǒng)” ที่แปลว่า ไม่สิ้นสุด เป็นคำที่ถูกยกมาเป็นตัวอย่างเสมอเมื่อพูดถึงศิลปะการคัดลายมือ ถ้าเราสังเกตดีๆ จะเห็นว่าอักษรจีนตัวนี้ประกอบด้วยเส้นขีดพื้นฐาน 8 ขีด ด้วยเหตุนี้ ในบางครั้งคนจีนจึงตัดสินว่าใครลายมือสวยจากการคัดตัว 永 นี่แหละ  

yong chinese calligraphy

ถ้าผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีนเป็นเด็ก เหล่าซือมักจะยกเส้นขีด 8 เส้นนี้ผ่านตัว 永 เมื่อเด็กๆ เขียนคำนี้ได้สวยและถูกต้อง นั้นก็หมายความว่า เส้นขีดทั้ง 8 เส้นของพวกเขาก็ไม่มีปัญหา 

ปัจจุบันมีโปรแกรม/แอพพลิเคชั่นมากมาย ที่ให้เราเขียนอักษรขีนลงไปและหาความหมายได้เลย แต่บ่อยครั้งที่เราก็ต้องเขียนให้ถูกตามลำดับขั้น ดังนั้นการเขียนอักษรจีนให้ถูกต้องตามลำดับขีดจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ และยังทำให้เราต่อยอดการเขียนตัวอักษรที่ยากขึ้นได้อีกด้วย

และนี่คือกฎพื้นฐานของการเขียนอักษรจีนตามลำดับขีด 

   1. เขียนจากบนลงล่าง  อักษรจีนที่ดูเป็นก้อนเดียว ไม่แบ่งซ้ายขวา หรือตรงกลาง เราจะเขียนจากบนลงล่าง เช่น 立,言

 

   2. เขียนจากซ้ายไปขวา  อักษรจีนที่มีหมวดนำ (Radicals) อยู่ข้างๆ มักเขียนจากซ้ายไปขวา เช่น 吃

 

   3. เขียนตรงกลาง แล้วซ้ายจากนั้นขวา  อักษรจีนที่แบ่งเป็น 3 ส่วน มักเขียนเส้นที่อยู่ตรงกลางก่อน แล้วเขียนฝั่งซ้าย จากนั้นเขียนฝั่งขวา

 

   4. เขียนเส้นขวางก่อนเส้นตั้ง  

 

   5. ตีกรอบนอก เขียนข้างในให้ครบ แล้วค่อยปิดกรอบ  อักษรจีนที่มีกรอบ ให้เขียนกรอบขึ้นมาก่อน แล้วเติมข้างในให้เสร็จ แล้วจึงปิดกรอบ เช่น 回,四

 

ที่จริงยังมีกฏอีกหลายข้อ แต่แค่พื้นฐาน 5 ข้อนี้เราจำได้ และเขียนได้ถูก การเขียนอักษรจีนของเราก็สวยในระดับหนึ่งแล้ว เรื่องของลายมือ ในวัฒนธรรมจีนถือเป็นเรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญมากเช่นกัน จนมีคำกล่าวอยู่ประโยคหนึ่ง “字如其人(zì rú qí rén)” ซึ่งแปลว่า ลายมือสื่อตัวตน พูดง่ายๆ ก็คือ ลายมือเป็นยังไง เราก็เป็นคนแบบนั้นนั่นเองค่ะ จริงไม่จริง ลองดูลายมือของตัวเองกันดูนะ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้ทุกคนเขียนอักษรจีนได้ง่ายขึ้นนะคะ 🙂 

Pitchy Liu

ทำงานแปลภาษาอังกฤษอยู่ดีๆ ก็อยากเรียนภาษาจีน จบมาก็พลิกผันเป็นครู/ติวเตอร์สอนภาษา ตอนนี้ได้ทำหลักสูตรภาษาจีนให้โรงเรียนเอกชนหลายแห่ง และยังคงสอนภาษาอยู่เช่นกัน :)

Leave a Reply

error: Content is protected !!