คำสแลงที่หาไม่ได้ในหนังสือเรียน (Part I)

ว่ากันว่า “สแลง” คือคำแสลงของคนเรียนภาษา?

เมื่อเราเริ่มเรียนภาษาใดก็ตามบนโลก สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเดินออกจากหนังสือเรียน แล้วก้าวเข้าสู่โลกแห่งการใช้ภาษาจริงในการสื่อสารกับเจ้าของภาษา ถ้าเราอยู่ประเทศจีนการเรียนรู้สแลงจีนจะช่วยให้เราพัฒนาภาษาและคุยกับเพื่อนคนจีนได้อย่างสนุกสนาน

แต่ถ้าเราเพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษาจีน สแลงก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก บางคำก็มาจากคำศัพท์ที่เราเคยผ่านตาแล้ว แค่รู้จักวิธีใช้ในความหมายที่สองอีกซักหน่อยก็พอ

วิวัฒนาการของสแลงจีน
ในอดีตคำสแลงจีนมักมาจากเรื่องราวเรื่องเล่าต่างๆ แต่ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ยุคไอที คำสแลงต่างๆ จึงมีที่มาในอีกรูปแบบหนึ่ง

กุญแจสำคัญในการเรียนภาษาจีน คือการออกเสียง ออกเสียงผิดความหมายเปลี่ยน คนรุ่นใหม่จึงใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้สร้างสแลงขึ้นมาซะเลย เช่น 520 (wǔ’èr líng) ที่ออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า 我爱你 (wǒ ài nǐ – ฉันรักเธอ)ดังนั้นในปัจจุบัน 520 จึงมีความหมายว่า ฉันรักเธอ ไปโดยปริยาย

หรือจะเป็นการดึงความหมายมาจากคำในภาษาอังกฤษ จะเห็นได้จากคำว่า 玻璃 (bō lí – กระจก) ที่ใช้เมื่อเอ่ยถึงคู่รักเกย์ มันมาจากคำว่า Boy Love ในภาษาอังกฤษที่ใช้ตัวย่อว่า BL และเมื่อเราพิมพ์พินอิน BL ในมือถือปุ๊บ อักษรจีนที่เป็นคำนามคำแรกที่เด้งขึ้นมาคือคำว่า 玻璃 คำนี้จึงมีความหมายว่าคู่รักเกย์ไปโดยปริยาย เช่นกัน

2 คำข้างบนนี้ แค่น้ำจิ้ม เรามารู้จักอีก 7 คำแรก ข้างล่างนี้กันดีกว่า

1. 94 九四 (jiǔ sì)
94 เป็นคำที่ป๊อบปูล่ามากในภาษาแชท แปลว่า “แน่นอน ใช่เลย ฉันรู้น่า” เพราะมันออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า 就是 (jiù shì) นั่นเอง

A: 你真漂亮. (Nǐ zhēn piàoliang.)
A: เธอสวยจัง

B: 94, 我知道. (Jiǔ sì, wǒ zhīdào.)
B: อือ ฉันรู้น่า

2. MM
นี่เป็นอีกหนึ่งคำที่เกิดขึ้นจากภาษาแชทเช่นกัน ที่มาเหมือนกับคำว่า GG ที่แปลว่า ผู้ชายหรือพี่ชาย เพราะมาจากคำว่า (Gēge) MM ย่อมาจาก 妹妹 (Mèimei – น้องสาว)แต่ในโลกอินเทอร์เน็ท MM แปลว่า ผู้หญิง ได้เช่นกัน นอกจากนั้น ยังใช้แทนคำว่า 美美 (měi měi – สวย) ได้อีกด้วย บางครั้งคำว่า MM ก็หมายถึงผู้หญิงที่ทั้งสาวและสวย ดังนั้นต้องดูบริบทให้ดี

3. PMP
PMP มาจากวลี 拍马屁 (pāi mǎ pì) ซึ่งแปลตรงตัวว่า “ตบตูดม้า” แต่ในสแลงกลับแปลว่า ประจบสอพลอ เลียแข้งเลียขา

我不喜欢给领导拍马屁的人。(Wǒ bù xǐhuan gěi lǐngdǎo pāi mǎ pì de rén)
ฉันไม่ชอบพวกที่ชอบเลียแข้งเลียขาหัวหน้า

4. 250 二百五 (èr bǎi wǔ)
คำนี้เวลาใช้ต้องระวังกันให้มาก เพราะถือเป็นคำด่าที่ค่อนข้างจะรุนแรง แปลว่า ไม่เต็มบาท ปัญญาอ่อน ดังนั้นเวลาจะบอกราคาหรือตัวเลข คนจีนจึงนิยมใช้ 两百五 หรือ 二五零 แทน

他真的是个二百五! (Tā zhēn de shì ge èr bǎi wǔ!)
เขาโคตรจะปัญญาอ่อนเลย

5. 阿猫阿狗 (ā māo ā gǒu)
คำนี้แปลว่า “ทุกคน, ใครก็ได้” เพราะสมัยโบราณคนจีนนิยมตั้งชื่อเล่นว่า 阿猫 (ā māo) กับ 阿狗 (ā gǒu)นั่นเอง

这件事不是阿猫阿狗就可以做的。(Zhè jiàn shì bùshì ā māo ā gǒu jiù kěyǐ zuò de)
เรื่องนี้ไม่ใช่ใครหน้าไหนก็ทำได้นะ

6. 算了 (suàn le)
วลีนี้แปลง่ายๆ เลยว่า “ช่างมัน, ลืมมันไปเถอะ” หรือ Let it go ในภาษาอังกฤษนั่นเอง

7. 去你的! (qù nǐ de!)
“ไปให้พ้น” คือความหมายของคำนี้ค่ะ ระวังการใช้กันนิดนึง ถ้าไม่อยากผิดใจกับเพื่อนคนจีน

แค่ 7 คำ ก็เริ่มสนุกกันแล้วใช่มั้ยเอ่ย รอติดตามอีก 8 คำที่เหลือกันนะ 

Pitchy Liu

ทำงานแปลภาษาอังกฤษอยู่ดีๆ ก็อยากเรียนภาษาจีน จบมาก็พลิกผันเป็นครู/ติวเตอร์สอนภาษา ตอนนี้ได้ทำหลักสูตรภาษาจีนให้โรงเรียนเอกชนหลายแห่ง และยังคงสอนภาษาอยู่เช่นกัน :)

Leave a Reply

error: Content is protected !!